ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้อนรับไรอัน กิ๊กส์ กลับมามีชื่อในทีมอีกครั้งหลังจากได้รับอาการบาดเจ็บโหนกแก้มแตก พักไป 9 สัปดาห์ ในขณะที่ รุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนี่ย์, อลัน สมิธ และเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ จะกลับมาลงเล่นหลังจากได้พักในเกมกลางสัปดาห์ที่ชนะเวสต์ บรอม ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ โดยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ตัดสินใจมอบปลอกแขนกัปตันทีมให้กับแกรี่ เนวิลล์ นอกจากนี้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็ใกล้จะได้กลับมาลงเล่นแล้ว โดยจะลงเล่นในเกมสำรองไปก่อน ยังไม่มีชื่อในนัดนี้
ปอร์ทสมัธ อาจจะให้สเวโตสลาฟ โตโดรอฟ ลงเล่น แม้ว่าดาริโอ ซิลวา กลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว หลังจากหายจากอาการบาดเจ็บที่น่อง ในขณะที่เดยัน สเตฟาโนวิช (ข้อเท้า), แอนดี้ โอไบรอัน (เชื้อไวรัส) และริชาร์ด ฮิวจ์ส (ฝ่าเท้า) ยังไม่แน่ว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ แต่โลร็องต์ โรแบร์ อาจจะกลับมาลงเล่นได้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม โฮเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, มิเกล ซิลแวสตร์, เวส บราวน์, จอห์น โอเชีย, คีแรน ริชาร์ดสัน, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์, พอล สโคลส์, อลัน สมิธ, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์, ปาร์ค จีซุง, รุด ฟาน นิสเตลรอย, เวย์น รูนี่ย์, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่
ปอร์ทสมัธ เจมี่ แอชดาวน์, ไบรอัน ปริสเก้, เดยัน สเตฟาโนวิช, แอนดี้ โอไบรอัน, แม็ทธิว เทย์เลอร์, แกรี่ โอนีล, ซาลิฟ ดิเยา, ริชาร์ด ฮิวจ์ส, โลร็องต์ โรแบร์, สเวโตสลาฟ โตโดรอฟ, โลมาน่า ลัวลัว, สโวนิเมียร์ วูคิช, เกรกอรี่ วิญาล, ลินวอย พรีมัส, ดาริโอ ซิลวา, คอลลินส์ เอ็มเบซูม่า, จอห์น เวียฟาร่า, อิวิก้า มอร์น่าร์, ซานเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์
สัมภาษณ์ก่อนเกม
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :
“ขวัญกำลังใจในทีมดีเยี่ยม การฝึกซ้อมทำได้ดี และนักเตะมีความมุ่งมั่นดี เรามีช่วงเวลายากลำบากก่อนหน้านี้เมื่อนักเตะดาวรุ่งพยายามทำหน้าที่ของนักเตะผู้ใหญ่ แต่ในตอนนี้เราได้นักเตะที่มีประสบการณ์บางคนกลับมาสู่ทีมอีกครั้ง เรามีโอกาสได้พักนักเตะดาวรุ่งบางคนซึ่งทำหน้าที่อย่างหนักมายาวนาน”
ริชาร์ด ฮิวจ์ส กองกลางของปอร์ทสมัธ :
“มันเป็นเกมที่ยากที่สุดเกมหนึ่ง แต่ในฤดูกาลที่แล้วเราทำได้ดีในการพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เราตีเสมอได้จากลูกยิงไกลของแกรี่ โอนีล และเพียงไม่กี่นาทีก่อนหมดเวลา เวย์น รูนี่ย์ ก็ทำประตูชัย ถ้าเราสามารถเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น นักเตะอย่างโลร็องต์ โรแบร์ สามารถหาโอกาสและทำประตูได้จากทุกจังหวะ”
ข้อมูลของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จัดพิธีไว้อาลัยให้จอร์จ เบสต์ เมื่อคืนวันพุธได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากนั้นก็ถล่มเวสต์ บรอม ไปได้ 3-1 ในศึกคาร์ลิ่ง คัพ มาถึงตอนนี้พวกเขากำลังจะคว้าชัยชนะเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกันในพรีเมียร์ชิพ โดยจะลงเล่นในเกมวันเสาร์พบกับปอร์ทสมัธ ทีมไร้ผู้จัดการทีมที่กำลังหลีกหนีความพ่ายแพ้ 4 นัดติดต่อกันในลีก ปิศาจแดง อาจจะต้องตามหลังเชลซี เป็น 13 คะแนนในตอนเริ่มเกม ในขณะที่การเยือนสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ใช่เกมที่ง่ายเลยอย่างแน่นอนสำหรับทีมจากแดนใต้ที่กำลังค้นหาเจ้านายคนใหม่ ผลงานในลีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตรงกันข้ามกับของทีมปอมปีย์ เลยทีเดียว ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชนะ 8 นัด และแพ้ 2 นัด ในขณะที่ปอร์ทสมัธ ชนะ 2 นัด และแพ้ 8 นัด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังป้องกันสถิติชนะรวดในการลงเล่นในบ้านพบกับปอร์ทสมัธ ในพรีเมียร์ชิพ พวกเขาชนะมาทั้ง 2 นัดก่อนหน้านี้ โดยชนะ 3-0 และชนะ 2-1 ในฤดูกาลที่แล้วเมื่อ 2 ประตูจากเวย์น รูนี่ย์ ช่วยกระตุ้นความหวังสุดท้ายในการคว้าแชมป์ของปิศาจแดง ขึ้นมาอีกครั้ง ที่จริงแล้วเกมทั้ง 4 นัดในพรีเมียร์ชิพที่ 2 สโมสรนี้พบกับเป็นชัยชนะของเจ้าบ้านทั้งหมด
ปอร์ทสมัธ เดินทางไปฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือโดยกำลังต้องการประตูแรกใน 4 นัดหลังสุด และชัยชนะนัดที่ 2 ในเกมลีก 10 นัดตั้งแต่กลางเดือนกันยายน
นี่เป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดของทีมปอมปีย์ ที่แพ้ติดต่อกันในช่วงกลางฤดูกาล หลังจากพวกเขาเคยแพ้ติดต่อกัน 4 นัดรวดระหว่างวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 5 มีนาคม ในฤดูกาลที่แล้ว และทำได้เพียงประตูเดียวที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการเยือน 3 นัดหลังสุด
ทีมปอมปีย์ เดินทางเยือนสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ยังไม่เคยชนะมาเป็นเวลา 48 ปี พวกเขาเคยชนะที่นี่ในลีกสูงสุดครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 1957 โดยชนะไป 3-0 หลังจากนั้นสโมสรแห่งแฟร็ตตัน ปาร์ค แพ้รวดทั้ง 5 นัดในการเยือนสนามแห่งนี้ในลีก
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่อันดับที่ 2 มี 27 คะแนน, ชนะ 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ ได้แก่ เชลซี (1-0 เหย้า), ชาร์ลตัน (3-1 เยือน) และเวสต์ แฮม (2-1 เยือน), ชนะ 5 นัดจาก 7 นัดหลังสุดในลีก, ไม่เสียประตู 1 นัดจาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ คือเกมที่ชนะเชลซี ในบ้านไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน, ทำประตูได้ทุกนัดใน 8 นัดหลังสุดในลีก, ทำประตูไม่ได้ 1 นัดจาก 13 นัดในลีกฤดูกาลนี้ (เสมอกับลิเวอร์พูล 0-0 เมื่อวันที่ 18 กันยายน), เป็น 1 ใน 2 สโมสรที่ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ อีกสโมสรหนึ่งคือเชลซี, ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวจาก 18 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ทำได้นัดละ 3 ประตูใน 3 นัดจาก 7 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ, ชนะทุกนัดที่เวย์น รูนี่ย์ ทำประตูได้ (18 นัดที่ผ่านมา, 6 นัดในฤดูกาลนี้), ผ่านมาแล้ว 8 นัดในลีกหลังจากเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์, ขาดอีกนัดเดียวจะแพ้ครบ 600 นัดในลีกช่วงหลังสงครามโลก, มีฟอร์มการเล่นดีที่สุดในครึ่งแรกในลีกฤดูกาลนี้ (ขึ้นนำ 7 นัด, เสมอกัน 3 นัด และตามหลัง 3 นัดในช่วงพักครึ่ง), มีนักเตะที่ลงเล่นทุกนัดในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้มากที่สุด (9 คน), เสียประตูมากกว่าสโมสรอื่นในช่วง 5 นาทีแรกของเกมพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้ (3 ประตู), อยู่อันดับที่ 4 ของตารางฟอร์มการเล่น 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ ทำได้ 13 คะแนนจากทั้งหมด 18 คะแนน ตามหลังลิเวอร์พูล (15 คะแนน), และเชลซี กับอาร์เซน่อล (ทีมละ 13 คะแนน), เกมเหย้า 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ จบลงด้วยการแพ้, เสมอ และชนะ เรียงตามลำดับ, ทำได้นัดละ 1 ประตูในเกมลีก 5 นัดที่ลงเล่นในสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ฤดูกาลนี้ และในเกมลีก 7 นัดหลังสุดที่ลงเล่นในโรงละครแห่งความฝัน, ทำประตูไม่ได้ในเกมเหย้าในลีกเพียงนัดเดียวตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม คือเกมที่เสมอแบบไร้สกอร์กับแบล็คเบิร์น เมื่อวันที่ 2 เมษายน
ปอร์ทสมัธ อยู่อันดับที่ 18 มี 10 คะแนน, แพ้ 3 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ ได้แก่ วีแกน (0-2 เหย้า), ลิเวอร์พูล (0-3 เยือน) และเชลซี (0-2 เหย้า), ทำประตูไม่ได้ในพรีเมียร์ชิพ 3 นัดหลังสุด หรือ 286 นาที (4 ชั่วโมง 46 นาที) ในลีก ตั้งแต่ดาริโอ ซิลวา ทำประตูที่ 4 ของทีมได้ในเกมเยือนซันเดอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม, ชนะ 1 นัดจาก 10 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ, ชนะเพียงนัดเดียวจาก 9 นัดหลังสุดในลีก คือชนะซันเดอร์แลนด์ ในเกมเยือนไปได้ 4-1 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม, ทำประตูไม่ได้ 6 นัดจาก 14 นัดในลีกฤดูกาลนี้ และ 5 นัดจาก 8 นัดหลังสุด รวมทั้ง 3 นัดหลังสุด, ผ่านมาแล้ว 6 นัดในพรีเมียร์ชิพหลังจากเกมที่ไม่เสียประตู, เกมเหย้าที่เสมอแบบไร้สกอร์กับนิวคาสเซิล เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เป็นนัดเดียวที่ไม่เสียประตูจาก 9 นัดหลังสุดในลีก, ไม่เสียประตูเพียง 2 นัดในลีกฤดูกาลนี้, ทำคะแนนได้น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันในฤดูกาลที่แล้วอยู่ 8 คะแนน, นี่เป็นการเริ่มต้นฤดูกาลพรีเมียร์ชิพที่ย่ำแย่ที่สุดของพวกเขา ก่อนหน้านี้มีคะแนนน้อยที่สุดหลังจากผ่านไปแล้ว 14 นัด ทำได้ 15 คะแนนเมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งเป็นฤดูกาลแรกที่ได้ลงเล่นในพรีเมียร์ชิพ, ทำประตูได้มากกว่า 1 ประตูเพียงนัดเดียวในลีกฤดูกาลนี้ และ 1 นัดจาก 17 นัดหลังสุด, ยังไม่เคยทำประตูในช่วง 10 นาทีสุดท้ายของเกมพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้, เป็นเพียงสโมสรเดียวที่ไม่มีนักเตะที่ลงเล่นทุกนัดในพรีเมียร์ชิพฤดูกาลนี้, อยู่อันดับที่ 4 จากท้ายตารางฟอร์มการเล่น 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ชิพ ทำได้ 4 คะแนนจากทั้งหมด 18 คะแนน มีเพียงชาร์ลตัน, เบอร์มิงแฮม และซันเดอร์แลนด์ ที่ตามหลังอยู่, ชัยชนะทั้ง 2 นัดในพรีเมียร์ชิพ เป็นเกมเยือน (ชนะเอฟเวอร์ตัน ไปได้ 1-0 เมื่อวันที่ 10 กันยายน และชนะซันเดอร์แลนด์ ไปได้ 4-1 เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม), ทำประตูไม่ได้ในเกมเยือน 2 นัดในลีกฤดูกาลนี้ ซึ่งอยู่ในเกมเยือน 4 นัดหลังสุด (เยือนโบลตัน และลิเวอร์พูล), ไม่เสียประตูในเกมเยือน 1 นัด (ชนะ 1-0 ที่สนามกูดิสัน ปาร์ค), แพ้ 12 นัดจากเกมเยือน 16 นัดในพรีเมียร์ชิพในปี 2005
เกร็ดน่ารู้ของผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำได้ 12 ประตูให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทุกรายการ เป็นนักเตะในพรีเมียร์ชิพที่ทำประตูได้มากที่สุด ร่วมกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด ของเชลซี
ดาวยิงดัตช์แมน ทำได้ 10 ประตูในลีก ตามหลังแลมพาร์ด อยู่ 1 ประตูในตารางดาวซัลโวพรีเมียร์ชิพ
ทั้ง 5 ประตูที่เวย์น รูนี่ย์ ทำได้ในพรีเมียร์ชิพ ฤดูกาลนี้ เป็นการทำประตูในเกมเยือนทั้งหมด
ถ้ามิเกล ซิลแวสตร์ ลงเล่นตั้งแต่ต้นเกม
จะเป็นการลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ชิพนัดที่ 200
ซึ่งเป็นการลงเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทั้งหมด
ปอร์ทสมัธ
ถ้าโลมาน่า ลัวลัว ลงเล่น จะเป็นการลงเล่นในลีกให้กับปอร์ทสมัธ นัดที่ 50
ผลการแข่งขันที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 ปอร์ทสมัธ
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2005
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซี่ย์
ผู้ทำประตูให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : รูนี่ย์ น. 8, น. 81
ผู้ทำประตูให้ ปอร์ทสมัธ : โอนีล น. 47
สถิติการพบกันทั้งหมด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 20 ครั้ง, ปอร์ทสมัธ ชนะ 16 ครั้ง, เสมอ 12 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2 ครั้ง, ปอร์ทสมัธ ชนะ 2 ครั้ง, เสมอ 0 ครั้ง
สถิติการพบกันในเกมเหย้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ในลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 15 ครั้ง, ปอร์ทสมัธ ชนะ 6 ครั้ง, เสมอ 3 ครั้ง
ในพรีเมียร์ชิพ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2 ครั้ง, ปอร์ทสมัธ ชนะ 0 ครั้ง, เสมอ 0
DaKinG